ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังระดับโลกคงจะคุ้นชื่อเเบรนด์ Tiffany & Co. กันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องเพชรเก่าแก่ลำดับต้นๆ ของโลก ที่ครองใจสาวๆ ทั่วโลกมาอย่างยาวนาน วันนี้เราเลยจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ Tiffany & Co. ว่าน่าสนใจกันขนาดไหน
#ก่อตั้งขึ้นเมื่อใด
Tiffany & Co. ถือกำเนิดขึ้นในปี 1837 ณ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดย ชาร์ล ลูวิส ทิฟฟานี่ (Charles Lewis Tiffany) ชายหนุ่มไฟเเรงอายุเพียง 25 ปี ที่มีความสนใจในด้านธุรกิจตั้งแต่ยังเด็ก ได้มองเห็นโอกาสทองในการทำธุรกิจ เนื่องจากในยุคนั้น เมืองนิวยอร์ก ถือเป็นช่วงเวลาเเห่งการเติบโตในด้านธุรกิจ เขาจึงเปิดร้านขาย เครื่องเขียน และสินค้าแฟนซี โดยมี จอห์น บี ยัง (John B. Young) เพื่อนของเขามาช่วยกันบริหาร ด้วยเงินทุน 1,000 เหรียญ จากพ่อของเขา ภายใต้ร้านที่มีชื่อว่า Tiffany & Young ก่อนที่เขาจะเเยกตัวออกมาในปี 1853 เเละเปลี่ยนชื่อเป็น Tiffany & Co. มาจนถึงปัจจุบันนี้ อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่า King of Diamond
#BlueBook
มาถึงตอนนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม Tiffany & Co. ถึงมาทำกิจการเกี่ยวกับเครื่องเพชรได้ นั่นก็เพราะ ในช่วงทศวรรษที่ 1840 ชาร์ล ลูวิส ทิฟฟานี่ ได้เริ่มซื้อเพชรจากขุนนางฝรั่งเศส เเละได้ผลิตเป็นเครื่องประดับ จนนำไปสู่การทำ Blue Book แคตตาล็อกสั่งซื้อทางไปรษณีย์รายแรกของประเทศ ที่แสดงให้เห็นถึงการออกแบบ และงานฝีมือที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Tiffany & Co.โดยเริ่มขึ้นตั้งเเต่ปี 1845 จนถึงปัจจุบันนี้
#TiffanyBlue
ถ้าพูดถึง Tiffany & Co. เเล้วหลายคงจะรู้จัก Tiffany Blue สีประจำแบรนด์ที่มีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร โดยผู้ก่อตั้งเเบรนด์อย่าง ชาร์ล ลูวิส ทิฟฟานี่ ได้เลือกสีนี้มา เนื่องจากสมัยศตวรรษที่ 19 พลอยสีฟ้าครามเป็นที่นิยมชมชอบของเจ้าสาววิคตอเรีย ที่มักจะให้ของที่ระลึกเป็นเข็มกลัดรูปนกพิราบประดับพลอยสีนี้ไว้ในวันเเต่งงาน
นี่จึงเป็นที่มาของ สีปกของ Blue Book เเละสีของกล่องใส่เเหวน Tiffany Blue Box ยังไม่หมดเเต่เพียงเท่านั้น สี Tiffany Blue ยังถือเป็นเครื่องหมายทางการค้าของ Tiffany & Co. ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก เมื่อคุณเห็นสีนี้ก็จะจำได้ทันทีว่ามาจากเเบรนด์อะไร
#TiffanyDiamond
หลังจากทิฟฟานี่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เนื่องจากได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่สำหรับงานฝีมือเงินอย่างงาน World’s Fair 1867, Paris ไปเเล้ว ในปี 1877 ชาร์ล ลูวิส ทิฟฟานี่ ก็ได้ซื้อเพชรสีเหลือง 287.42 กะรัต จากเหมืองเพชร Kimberley ในแอฟริกาใต้ พร้อมกับตั้งชื่อมันว่า Tiffany Diamond ซึ่งเพชรเม็ดนี้ถือเป็นของหายากล้ำค่าที่ถูกยกให้เป็นเพชรสีเหลืองที่ใหญ่ที่สุด และที่ดีที่สุดในโลก
ถูกซื้อมาในราคาถึง $18,000 หรือ ประมาณ 557,641 บาท ไทยในตอนนี้ ซึ่งถ้าเทียบกับ 142 ปีที่เเล้วก็ถือว่าเป็นราคาที่สูงมากเลยทีเดียว เเต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเพชรสีเหลืองเม็ดงามก้อนโตนี้ได้ถูกเจียระไนเป็นรูปทรงกลมจนเหลือเพียง 128.54 กะรัต กับ 82 เหลี่ยม ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทำให้เพชรสีเหลืองเม็ดนี้ดูเปล่งประกายระยิบระยับราวกับมีเปลวไฟด้านใน ที่พร้อมจะแผดเผาเมื่อคุณได้ชายตามองเข้าไป
ด้วยความสวยสง่าจึงทำให้เพชรเม็ดนี้โด่งดังจนได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือประวัติศาสตร์เป็นจำนวนมาก ทำให้ประวัติศาสตร์ของ Tiffany ไม่เพียงแต่ทำให้โลกตื่นตาด้วยเพชรที่งดงาม แต่ยังแนะนำให้เรารู้จักกับอัญมณีที่ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อนอีกด้วย
#เพชรเม็ดงามกับสามสตรี
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเพชรสีเหลืองเม็ดงามนี้ ได้กลายเป็นจี้เพชรเม็ดงามของสตรีเพียง 3 คนบนโลกเท่านั้นที่ได้สวมใส่มัน คนเเรก คือ นางเชลดอน ไวท์เฮ้าส์ สวมในงานปาร์ตี้ของ ทิฟฟานี บอลล์ จัดขึ้นที่นิวพอร์ตบีชในปี 1957
คนที่สอง คือ ออเดรย์ แฮปเบิร์น สวมสร้อยนี้เพื่อถ่ายภาพโปรโมท ภาพยนตร์ เรื่อง Breakfast at Tiffany’s ในปี 1961 เเละ คนสุดท้ายก็คือ เลดี้ กาก้า ในงานประกาศรางวัล ออสก้า ครั้งที่ 91 เรียกได้ว่าสดๆร้อนๆกันเลยทีเดียว
โดยเพชรทั้งหมดที่สามสตรีใส่นั้นเป็นเพียงการให้ยืมจาก Tiffany & Co. และปัจจุบัน เพชรนี้วางโชว์อยู่ในร้านที่ New York เเต่ถ้าใครอยากรู้ว่าราคาจริงๆของมันตอนนี้เท่าไร ก็คงต้องบอกได้ว่าเเรงสมกับความงามของมันเลยทีเดียวเพราะสร้อยเพชรสีเหลืองนี้มี มูลค่าสูงถึง $30 ล้านเหรียญฯ หรือราว 960 ล้านบาท
#แหวนหมั้นหรูหราแต่เรียบง่าย
Tiffany & Co. ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในการส่งมอบความรัก ซึ่งพลาดไม่ได้ที่จะไม่กล่าวถึงหนึ่งในคอลเลกชันของ Tiffany Setting อันเป็นเอกลักษณ์ของ ชาร์ล ลูวิส ทิฟฟานี่ ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 1886 โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์แหวนหมั้น การยกชูเพชรสูงจากตัวเรือน ทำให้เพชรสามารถรับแสงได้อย่างเต็มที่ และด้วยเทคนิคการเจียระไนแสงสะท้อนจึงส่องประกายเจิดจรัส ทำให้แหวนหมั้นในคอลเลกชันนี้กลายเป็นต้นฉบับของแหวนหมั้นในปัจจุบัน
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เพชรของ Tiffany & Co. โดดเด่น นอกจากการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หรูหรา แต่แฝงด้วยความเรียบง่ายแล้ว คือ การเน้นมาตรฐานของการคัดสรรเพชรเม็ดงามมาโดยตลอดที่มีเพียง 0.04% ที่จะสามารถเข้าไปในร้านของ Tiffany ได้ นั่นหมายความว่า 99.96% ที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นจะถูกคัดออก หลังจากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการเจียระไน เปรียบเสมือนศิลปะชั้นเยี่ยม โดยช่างที่มีทักษะขั้นสูง ประสบการณ์อย่างยาวนาน และสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ได้สรรสร้างแหวนแต่ละวงให้มีรูปแบบที่แตกต่างกันไป เปรียบเสมือนความรักของแต่ละคน