หากพูดถึง มอเตอร์ไซค์ ที่ให้ความรู้สึกถึงความ อิสระเสรี คงจะเป็นเเบรนด์ไหนไปไม่ได้นอกจาก HARLEY – DAVIDSON สุดคลาสสิคมองกี่ที เห็นกี่ครั้งก็ต้องสะดุดตา เมื่อหลับตาฟังเสียงของเครื่องยนต์ก็จะเห็นถึงเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร จึงไม่เเปลกใจเลยว่าทำไมค่ายนี้ถึงเป็น “ยี่ห้อในตำนาน” ของวงการมอเตอร์ไซค์ เเต่กว่าจะมาเป็น HARLEY – DAVIDSON ในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
วันนี้เราเลยจะพาคุณมารู้จักกับ HARLEY – DAVIDSON ว่ามีที่มาที่ไปยังไง เเละอะไรคือความเเตกต่าง ที่ทำให้ มอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อนี้ กลายเป็นยี่ห้อในตำนาน

#กว่าจะมาเป็นมอเตอร์ไซค์เคยเป็นจักรยานมาก่อน
ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน (Harley Davidson) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1903 โดยสองพี่น้องตระกูล Davidson เเละ William Harley ซึ่งมอเตอร์ไซค์ที่เขาผลิตคันเเรกนั้นมาจากการนำจักรยานมาติดเครื่องยนต์ เเละขายภายในกระท่อมหลังบ้านพวกเขา จนตั้งโรงงานอย่างเป็นทางการ ในปี 1906
ปีต่อมา วิลเลียม ฮาร์เล่ย์ ได้ประดิษฐ์เครื่องยนต์ V – Twin มาใส่ในมอเตอร์ไซค์คันเเรกของพวกเขา (Harley – Davidson v twin 5d 1909 ) เครื่องยนต์ V – Twin ยังถูกดัดแปลงพัฒนา ใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ได้ผลิตมอเตอร์ไซต์ ( 1917 Harley – Davidson J ) ซึ่งถือเป็นรุ่นเเรกที่ใช้ในสงครามให้กับกองทัพอเมริกา จำนวนเกือบ 15,000 คัน

#จากรุ่งเกือบล่วง
ในทศวรรต 1920 ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ได้กลายเป็นผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยการส่งออกไปมากกว่า 67 ประเทศ ช่วงทศวรรษ 1930 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ยอดขายของ ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ล่วงไปเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 2 ปี เเต่ก็รอดจากวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐฯ มาได้
สงครามโลกครั้งที่ 2 ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ได้ผลิตมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่น ได้เเก่ XA ที่มีเพียง 1,000 คัน เเละ WLA ที่มีมากกว่า 60,000 คัน เพื่อใช้งานในกองทัพอีกครั้ง ช่วงทศวรรษที่ 1950 ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ได้เปิดตัว ฮาร์เล่ย์ รุ่น K ที่นำเทคโนโลยีกันสะเทือนแบบไฮโดรลิกมาใช้ จนพัฒนากลานมาเป็น Harley Davidson Sportster มอเตอร์ไซค์รุ่นยอดนิยมของค่าย

#ขายกิจการ
ปี 1969 ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ได้ขายกิจการให้กับ AMF ( American Machine and Foundry ) จึงเกิดการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ จนพนักงานในโรงงานนัดหยุดงาน เเละคุณภาพของมอเตอร์ไซค์ที่ตกต่ำลง จนทำให้เกือบล้มละลาย
อดีตผู้บริหาร และทายาทของผู้ก่อตั้ง ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ได้รวมตัวกันซื้อบริษัทคืนจาก AMF จนกอบกู้บริษัทกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ทั้งรูปทรง กำลังเครื่อง และเสียง ได้อย่างครบถ้วนด้วยการผลิตอย่างมีคุณภาพ แต่สุดท้าย ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ก็ได้ขายกิจการให้กับ Erik Buell ในปี 2009

#ทำไมHarleyDavidsonถึงเเพง ?
หลายคนคงจะรู้ว่า ราคาของเจ้า ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน เเต่ละคันนั้นเเรงพอสมควรขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท ไปจนถึง 3,000,000 กว่าบาทก็มี ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน เป็นเเบรนด์ที่ได้การยอมรับมานานถึง 116 ปี จึงทำให้เป็นเเบรนด์เก่าเเก่ในวงการมอเตอร์ไซค์ ที่ใคร ๆ ก็รู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถขับได้ เนื่องจากราคาที่เเพง เเละบางรุ่นก็ผลิตออกมาน้อยมาก ทำให้คนที่ใช้แบรนด์นี้ รู้สึกว่ามีของพิเศษอยู่ในมือจริง ๆ
ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ต้องผ่าน QC ที่โหด เพื่อให้เเน่ใจว่าใช้วัสดุ เเละเครื่องยนต์ที่มีคุณภาพ ดีที่สุดตามสไตล์อเมริกัน เหล็กทุกชิ้นจะไม่มีฟองอากาศในเนื้อเหล็ก การกัดกร่อนก็จะผุพังช้ากว่า ทำให้มั่นใจได้ว่าอีก 10 ปี ก็ยังไม่ผุพัง เเละเสียงท่ออันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ว่าเเบรนด์ไหนก็ไม่สามารถทำตามได้ เพราะคุณภาพเเละชื่อเสียงของเเบรนด์ทำให้ ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน มีราคาสูง เรียกได้ว่าเป็นคุณค่าทางจิตใจ

#ไม่เน้นความล้ำเน้นอารมณ์
หลายคนอาจจะคิดว่ายี่ห้ออื่นล้ำกว่าด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ที่ไม่ว่าเเบรนด์ไหนๆ ก็ดึงจุดเด่นของตัวเองขึ้นมา เเต่ฮาร์เล่ย์เน้นที่อารมณ์ของผู้ขับขี่มากกว่าการเอานั่นเอานี่ใส่ไปจนขาดความเป็นมอเตอร์ไซค์ไป การขับขี่อาจจะยากลำบากกว่ายี่ห้ออื่น เเต่ก็ท้าทายกว่าการขี่มอเตอร์ไซค์ปกติ เสมือนเปลี่ยน “ปลายทาง” ให้กลับกลายเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ให้เราได้สัมผัสกับสุนทรีย์ภาพของการขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง