หากพูดถึงหนึ่งในกลไกของนาฬิกาที่ประดิษฐ์ออกมาได้ยากที่สุด คงต้องยกให้กลไก ‘Tourbillon’ ที่ถูกคิดค้นมาเพื่อแก้ปัญหาความไม่เที่ยงตรงโดยเฉพาะ
แต่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้ว ยังมีกลไกที่เหนือชั้นกว่านั้น คือ ‘Flying Tourbillon’ ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้นาฬิกาหรูแพงขึ้นหลายเท่าตัว แถมหาได้ยาก และมีเพียงไม่กี่แบรนด์บนโลกที่สามารถผลิตได้ !
เหตุใดกลไกสุดหรูนี้ถึงถูกยกให้เป็นตำนานของสุดยอดระบบกลไกที่ได้รับการยอมรับจากนักสะสมนาฬิกาทั่วโลก ไปชมกัน
Flying Tourbillon กลไกแห่งเรือนเวลาชั้นสูง ที่เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาความไม่เที่ยงตรง
กลไก Tourbillon (ตูร์บิยง) ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรก ในปี 1795 โดย Abraham-Louis Breguet จาก “การพยามแก้ไขปัญหาของกลไกนาฬิกาที่ไม่เที่ยงตรงจากแรงโน้มถ่วงโลก” ด้วยการนำเอา จักรกรอก (Balance Wheel) และเดือย (Escapement) มาประกอบกันบนโครงที่หมุนได้ เพื่อให้ทั้งสองไม่เคลื่อนออกจากจุดใดจุดหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเอียง เรียกว่าเป็นการเอาชนะกฎแห่งแรงโน้มถ่วงโลกได้อย่างเหนือชั้น
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีกลไกนาฬิกาที่เหนือชั้นกว่าถือกำเนิดขึ้นมา นั่นก็คือ ‘Flying Tourbillon’ (ฟลายอิง ตูร์บิยง) ที่คิดค้นโดย Alfred Helwig ซึ่งเขาได้นำแนวคิดจากกลไก Tourbillon อันเดิมมาพัฒนาต่อ และด้วยการที่ชุดจักรกรอกนี้มีการติดตั้งแกนค้ำไว้ในด้านหลัง แทนที่จะเป็นแป้นยึดตามปกติ จึงทำให้กลไกใหม่นี้ดูราวกับเป็นชุดจักรกรอกที่ทำงานลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ
โดย Blancpain เป็นแบรนด์แรกที่ได้นำเอากลไก Flying Tourbillon มาใส่ในนาฬิกาข้อมือในปี 1989 ซึ่งนาฬิกาที่คุณเห็นอยู่นี้ คือ Blancpain รุ่น Villeret Tourbillon Volant Heure Sautante Minute Rétrograde ที่ใช้กลไก Blancpain flying tourbillon ซึ่งเป็นกลไกอินเฮ้าส์ที่ Blancpain ประดิษฐ์ขึ้นเองทั้งหมด
ซึ่งถูกดีไซน์มาด้วยเทคนิคพิเศษให้คุณได้ชื่นชมความงดงามของฟันเฟือง Flying Tourbillon ที่หมุนให้ชมอย่างเพลินตาได้โดยไม่มี Upper bridge มาบดบังเหมือนกับกลไก Tourbillon ทั่วไป
ครั้งแรกของ Blancpain ที่จับคู่การแสดงชั่วโมงและนาทีรูปแบบพิเศษนี้เข้าไว้ด้วยกัน
ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ Blancpain กับการรังสรรค์นาฬิกาที่ใช้กลไก Jumping Hours และ Retrograde Minutes มาจับคู่การแสดงหลักชั่วโมง และนาทีรูปแบบพิเศษนี้เข้าไว้ด้วยกัน โดยหน้าปัดจะไม่มีเข็มบอกชั่วโมง แต่จะใช้ตัวเลขในวงกลมช่องเล็ก ๆ เป็นการบอกชั่วโมงแทน ส่วนเข็มนาทีก็ไม่ได้เดินวนเป็นวงกลม แต่จะเด้งย้อนกลับมาตั้งต้นใหม่ที่เลข 0 ทุกครั้งที่ครบ 60 นาทีแทน ซึ่งนี่ถือเป็นกลไกที่มีความซับซ้อน และต้องอาศัยความเชี่ยวชาญขั้นครูในการคำนวณเวลาอย่างแม่นยำ ถึงจะสามารถรังสรรค์กลไกชั้นสูงแบบนี้ออกมาได้
ต้องใช้ความประณีตขั้นสูงสุดทุกขั้นตอนในการทำ
การดีไซน์และรังสรรค์นาฬิกาเรือนนี้ต้องใช้ความประณีตขั้นสูงสุดทุกขั้นตอนในการทำ ไม่ว่าจะเป็น หน้าปัดทองคำแท้ที่ถูกเคลือบลงยาด้วยศิลปะ Grand feu โดยใช้เทคนิค Champlevé แบบดั้งเดิม ที่ต้องเจาะช่องต่าง ๆ ลงบนแผ่นทองคำที่ใช้ทำหน้าปัด และค่อย ๆ บรรจงลงยาด้วยมือทีละชิ้นอย่างประณีตที่สุด ก่อนจะนำไปเผาเคลือบแต่ละรอบนานกว่า 8 ชั่วโมง และต้องทำซ้ำกว่า 8 รอบ ในความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 800 องศาเซลเซียส จนได้ออกมาเป็นหน้าปัดสีขาวนวลที่สะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็น
ในส่วนของกลไกก็สะท้อนให้เห็นถึงความบรรจงประณีตที่แฝงเอาไว้ในทุกรายละเอียด
อย่าง Bridges ก็ถูกตกแต่งด้วยลวดลายอันสวยงามน่าหลงใหลอย่าง Guilloché ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดงานศิลปะที่ต้องอาศัยความละเอียดขั้นสูงในการผลิตและสร้างสรรค์ และจะต้องเป็นการแกะสลักด้วยมือเท่านั้น
นอกจากนี้ตัวเรือนยังถูกออกแบบมาให้ผู้สวมใส่ได้ชื่นชม Rachet Wheel ที่ขัดขอบขึ้นมุมแบบโค้งอันเป็นดีไซน์เลื่องชื่อของ Blancpain รวมถึงการแสดงพลังงานสำรองด้วย Guilloché disk อีกด้วย
ใช้ทองคำแท้ในการรังสรรค์เรือนเวลาทั้งหมด
อีกหนึ่งความพิเศษที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ คือ การใช้ทองคำแท้ในการรังสรรค์เรือนเวลาทั้งหมด ตั้งแต่ หน้าปัด ตัวเรือน ไปจนถึง สายทองคำที่ถูกถักขึ้นด้วยมือทีละเส้นอย่างประณีตจนได้สายนาฬิกาทองคำที่โค้งรับกับทุกสัดส่วนบนข้อมือของผู้สวมใส่ได้อย่างลงตัวที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติม
กว่าจะรังสรรค์นาฬิกา Blancpain รุ่น Villeret Tourbillon Volant Heure Sautante Minute Rétrograde ออกมาได้แต่ละเรือนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องใช้กลไกที่ซับซ้อนขั้นสูงอย่าง “Flying Tourbillon” อีกทั้งยังต้องใช้ความประณีตในการดีไซน์รังสรรค์ จนทำให้นาฬิกาเรือนนี้เป็นมากกว่าเครื่องมือบอกเวลา แต่เปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นหายากที่มีคุณค่าทางจิตใจ และนี่เองคือเหตุผลที่ทำให้นาฬิการุ่นนี้มีมูลค่าสูงถึง 5,xxx,xxx บาท !
นอกจากเรือนสายทองคำแท้แล้ว ยังมีสายหนังจระเข้สีน้ำตาล โดยทั้งสองแบบจะมาพร้อมกับตัวล็อคสายแบบบานพับ และยังมีรุ่น Limited Edition ที่ผลิตจากแพลตตินั่ม มีจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้นอีกด้วย
สามารถรับชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.Blancpain.com