ถ้าพูดถึงเรื่องรถยนต์หรู ตระกูลผู้ดี สัญชาติอังกฤษ ที่มาพร้อมความเร็วเเรงนั้น หลายคนคงจะนึกถึง Bentley (เบนท์ลี่ย์) รถยนต์หรูที่ได้การยอมรับจากคนทั่วโลกว่าเป็นรถยนต์ที่คู่ควรกับราคา โดยล่าสุดทาง Bentley ได้ทำการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ด้วยการเปิดตัวรถเเนวคิดสมัยใหม่อย่างเจ้า Bentley EXP 100 GT ที่มาพร้อมกับความล้ำสมัยทั้งภายในเเละภายนอก อีกทั้งยังได้เปิดตัว 3 รุ่นใหม่ที่มีอย่างละ 100 คัน โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นในตำนาน ต้อนรับศักราชใหม่ทำเอาสาวกคนรักรถหรูได้ตื่นเต้นกันเล่นๆ วันนี้เราเลยจะพาคุณไปดูกันว่า 3 รถหรูกับอีก 1 Concept Car ที่พึ่งเปิดตัวในวันครบรอบ 100 ปี นี้มีความพิเศษยังไงกันบ้าง
#อนาคตรถเเนวGrandTourer
Bentley EXP 100 GT concept คันนี้คือรถสปอร์ตหรูเเห่งอนาคตของเบนท์ลี่ย์ใน ปี ค.ศ. 2035 ที่มาในรูปเเบบเครื่องยนต์ระบบไฟฟ้า ซึ่งทางเบนท์ลี่ย์ ได้ทำ Concept Car ออกมาเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 100 ปี โดยความพิเศษของเจ้ารุ่นนี้คือจะมีระบบ AI ในตัวเพื่อที่จะเก็บข้อมูลในเเต่ละสถานที่ๆคุณเดินทาง เเถมยังมีเซ็นเซอร์ไว้สำหรับตรวจสอบอุณหภูมิตำแหน่งผู้โดยสารเพื่อที่จะสามารถวิเคราะห์และตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารล่วงหน้า เช่น การควบคุมพื้นผิวเบาะนั่ง
ซึ่งเจ้าตัวนี้จะใช้เทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ในการขับเคลื่อนผสานด้วยระบบควบคุมแรงบิด Torque Vectoring system ให้สมรรถนะ 1,340 แรงม้า แรงบิด 1,491 นิวตัน–เมตร อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ทำเวลาน้อยกว่า 2.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม. ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ ทางเบนท์ลี่ย์ได้พัฒนาแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟที่มีความจุมากกว่าแบตเตอรี่ในยุคปัจจุบันถึง 5 เท่า จาก 0 – 80% ภายในเวลาเพียง 15 นาที วิ่งได้ไกลถึง 700 กม.
#MULSANNEW.O.EDITION
MULSANNE W.O. EDITION คันนี้เป็นรถที่ถูกผลิตขึ้นเพียง 100 คัน เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี ของเบนท์ลี่ย์ โดยรถรุ่นนี้ได้ถูกพัฒนามาจากดีไซน์สุดท้ายของ Mulsanne ในปี 1930 (Bentley 8 Litre) ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้คือการได้รับการติดตั้งชิ้นส่วนจากเพลาข้อเหวี่ยงดั้งเดิมที่นำมาจาก Bentley 8 Litre รถยนต์เก่าสุดเก๋าในตำนานของค่ายเบนท์ลี่ย์
โดย W.O. Bentley ได้ออกเเบบเป็นงานชิ้นสุดท้ายในปี 1930 ก่อนที่เขาจะขายบริษัทให้กับ Rolls-Royce (โรลส์–รอยซ์) ซึ่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวจะได้รับการผลิตด้วยมือของช่างเทคนิคระดับเทพจากแผนกตกแต่งพิเศษ Mulliner ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังหรืองานไม้ที่มีลายมือเป็นชื่อของผู้ก่อตั้งถูกนำมาประดับห้องโดยสารภายในที่ให้ความรู้สึกหรูหราชวนนั่งเเล้ว รถคันนี้ยังสะท้อนถึงศิลปะร่วมสมัยที่ทรงคุณค่าอีกด้วย
#ContinentalGTConvertibleNumber9Edition
หลังจากเปิดตัวรุ่นพิเศษรุ่นเเรกกันไปเเล้วก็มาถึงเวลาเปิดตัว Continental GT Convertible Number 9 Edition รถสปอร์ตหรู ที่ถูกตกแต่งสไตล์รถแข่งย้อนยุค โดยมีรถรุ่นพี่อย่าง Bentley Blower No.9 มาเป็น เเรงบันดาลใจในการสร้าง ที่มาพร้อมกับกระจังหน้ากราฟฟิกหมายเลข 9 เสริมด้วยชุดแต่งคาร์บอนรอบคัน พร้อมการตกแต่งโทนสีดำ Black Line ล้อเป็นลาย Mulliner Driving ขนาด 22 นิ้ว ตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 2 สี คือ สีเขียว Viridian Green หรือสีดำ Beluga Black ส่วนห้องโดยสารนั้น มีให้เลือกสองสีด้วยกันคือสีเขียว Cumbrian Green หรือสีเทา Beluga
ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือแผงหน้าของรถยนต์จะถูกตกเเต่งด้วยชิ้นไม้แท้ที่เป็นส่วนหนึ่งของเบาะ Bentley Blower No.9 พร้อมกับป้ายทองคำ 18K ระบุหมายเลขประจำรถยนต์ระหว่างคันที่ 1 – 100 ส่วนตัวเครื่องยนต์นั้นมาพร้อมกับ เครื่องเบนซิน W12 TSI ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 333 กิโลเมตร/ชั่วโมง
#ContinentalGTConvertibleNumber1Edition
หลังจากเบนท์ลี่ย์ได้เปิดตัวสองรุ่นพิเศษในวันครบรอบ 100 ปี ไปเเล้ว ก็มาถึงรุ่นที่จะปิดท้ายความพิเศษกับเจ้า Continental GT Convertible Number 1 Edition รถสปอร์ตที่แสดงให้เห็นถึงยุคทองของมอเตอร์สปอร์ต โดยได้รับเเรงบันดาลใจมาจาก Bentley Blower No.1 ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้ากราฟฟิกหมายเลข 1 มาพร้อมกับชุดแต่ง Bentley Blackline Specification และ Carbon Body Kit กับสีพิเศษให้เลือกถึงสองสี ได้เเก่ สีแดง Dragon Red II และสีดำ Beluga รวมถึงหลังคาผ้าใบที่มีให้เลือกสองสีเหมือนกัน
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นตัวเบาะเเละเเผงประตูจะถูกประดับด้วยหนัง Heritage สีเเดง Cricket Ball หรือสีดำ Beluga อีกทั้งแผงแดชบอร์ดภายในห้องโดยสารจะใช้ไม้ Grand Black ประดับเพื่อเพิ่มความหรูเช่นเดียวกับการใช้ทอง 18 k แต่งทั้งนอกเเละในตัวรถในบางจุด เเต่ถ้าไม่มีชิ้นส่วนจากรถเบนท์ลี่ย์ในอดีตก็คงไม่ใช่รุ่นครบรอบ 100 ปี เพราะรถยนต์รุ่นปิดท้ายคันนี้ได้ใช้ Engine Spin ที่หล่อมาจาก Bentley Blower No.1 มาประดับไว้ที่คอนโซลกลาง โดยรถรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ W 12 6,000 ซีซี เทอร์โบ เกียร์ดูอัลคลัชต์ 8 สปีด เรียกได้ว่าขับได้เร้าใจเหมือนรถรุ่นพี่อย่าง Bentley Blower No.1 ในอดีตเลยทีเดียว