หากพูดถึงกล้องถ่ายภาพที่บรรดาช่างภาพทั่วโลกใฝ่ฝันคงจะเป็นอื่นใดไม่ได้นอกจาก Leica เพราะด้วยคุณภาพและเรื่องราวความเป็นมาที่ยาวนาน ทำให้เพียงเอ่ยชื่อแบรนด์ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก ด้วยกิตติศัพท์ที่ร่ำลือถึงคุณภาพขั้นสุดยอด ที่ทำให้ Leica เป็นเหมือนตำนานสุดคลาสสิคแห่งวงการถ่ายภาพ

และหากจะให้พูดถึงกล้องตัวที่ดีที่สุดของ Leica ก็น่าจะให้คำตอบได้ยาก แต่ถ้าพูดถึงกล้องที่น่าสนใจที่สุดของ Leica ก็ตอบได้ทันทีว่า ‘Leica M9-P Edition Hermès Série Limitée Jean-Louis Dumas’ ที่เป็นดั่งส่วนผสมชั้นยอดจากสุดยอดกล้องถ่ายภาพที่วงการถ่ายภาพทั่วโลกยอมรับอย่าง เพิ่มความหรูหราด้วยแบรนด์เครื่องหนังชั้นนำระดับโลกจากเมืองน้ำหอมอย่าง Hermès

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมแบรนด์แฟชั่นแถวหน้าของโลกถึงมาเจอกับแบรนด์กล้องในตำนานได้ ถึงแม้ว่าเรื่องแฟชั่นกับการถ่ายภาพจะดูเป็นเรื่องที่ไม่ใกล้กันนัก แต่เรื่องราวของทั้ง Leica และ Hermès กลับมีหลายสิ่งที่เหมือนกัน

History of the Brand กว่าจะมาเป็นแบรนด์ระดับโลก

หากถามว่า Leica คือกล้องที่คุณภาพดีที่สุดหรือไม่ ด้วยราคาที่สูงกว่ากล้องแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ ที่มีการใช้งานไม่แตกต่างกันมากนัก ก็อาจจะตอบไม่ได้อย่างแน่ชัด ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานของแต่ละบุคคล ถึงแม้ว่าการตลาดของ Leica จะไม่ได้เน้นยอดขายและปริมาณแบบกล้องรายอื่น แต่ด้วยประวัติและภาพลักษณ์ที่ Leica สะสมมาร่วมศตวรรษ ในฐานะของแบรนด์กล้องที่พลิกวงการการถ่ายภาพในอดีตให้ก้าวหน้า จึงทำให้ชื่อของ Leica มีคุณค่าในบรรดาคนรักการถ่ายภาพ

ด้วยประวัติของการเป็นแบรนด์เครื่องหนังที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานกว่า 180 ปี กับการสร้างผลิตภัณฑ์ให้กับชนชั้นสูง ผ่านยุคสมัยต่างๆ แต่ยังคงยึดมั่นในจุดยืนของการเป็นแบรนด์ที่เน้นความเป็นงานฝีมือ สร้างคุณภาพชั้นยอดให้กับสินค้าแบบชิ้นต่อชิ้น และการทำการตลาดแบบไม่เร่งรีบ  ไม่เน้นยอดขายปริมาณมาก ทำให้ Hermès เป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์และคุณค่าด้วยตัวเอง

A Work of Handcrafted พิถีพิถันด้วยงานจากช่างฝีมือ

ถึงแม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป เทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปสักแค่ไหน Leica ก็ยังคงยืดหยัดในกระบวนการผลิตรูปแบบดั้งเดิม นั่นคือการทำมือชิ้นต่อชิ้น ซึ่งในกล้องหนึ่งตัวนั้น จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนกว่าพันชิ้น และมากกว่าครึ่งของชิ้นส่วนเหล่านั้นทำจากช่างฝีมือ ที่มีความประณีต พิถีพิถัน และเน้นรายละเอียดสูง โดยช่างฝีมือที่ประกอบเลนส์ของ Leica นั้นเป็นผู้หญิง ที่มีทักษะในด้านความละเอียดอ่อนมากกว่าผู้ชาย

ในส่วนของ Hermès  นั้นงานฝีมือก็ถือว่าละเอียดอ่อนเช่นกัน ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้ามาอยู่ในกระบวนการผลิตกระเป๋าของ Hermès ได้ แต่ช่างฝีมือทุกคนต้องผ่านการฝึกในโรงงานของ Hermès  ที่ฝรั่งเศสไม่ต่ำกว่า 3 ปี จนเชี่ยวชาญแล้วจึงจะสามารถเย็บกระเป๋าได้ ซึ่งระยะเวลาในการเย็บกระเป๋าแต่ละใบก็ใช้เวลามากกว่าครึ่งวันเลยทีเดียว

The Strategy Behind the Brand การขายที่ไม่ได้เน้นปริมาณ

จริงอยู่ที่การผลิตสินค้าปริมาณมากเพื่อให้แบรนด์เข้าถึงง่าย ได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น และรู้จักกันเป็นวงกว้างเป็นเรื่องที่ดี แต่นั่นไม่ใช่วิธีของ Leica ที่ยังคงเน้นการผลิตในจำนวนที่เหมาะสม จากการประเมินตลาด และคาดการณ์ความต้องการ อีกทั้งด้วยราคาของ Leica จึงทำให้มีกลุ่มลูกค้าเฉพาะ และเป็นลูกค้าประเภทที่ยึดมั่นในผลิตภัณฑ์ของ Leica

เราแทบจะไม่ได้สัมผัสถึงการโฆษณาหรือการทำการตลาดของ Hermès เมื่อเทียบกับแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ ที่มีปริมาณการขายที่มากกว่า แต่ในขณะเดียวกัน Hermès กลับไม่ได้เน้นที่ปริมาณยอดขาย แต่ด้วยความเป็นงานฝีมือ จึงเน้นที่คุณภาพของสินค้าแต่ละชิ้นเป็นอย่างแรก Hermès จึงเป็นสินค้าแบรนด์ที่มีคนกล่าวถึงว่าแม้จะมีเงินมากมายเท่าไร ก็อาจจะไม่ได้มาครอบครอง และแม้ว่าจะมียอดขายไม่มากเท่าแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ แต่ราคานั้นสูงกว่ามาก

Best Collaboration Ever การรวมตัวกันของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

‘Leica M9-P Edition Hermès Série Limitée Jean-Louis Dumas’ คือที่สุดแห่งวงการถ่ายภาพ โดย Leica ที่ใช้ตัวกล้องสุดคลาสสิคที่เป็นเอกลักษณ์ของ Leica มาพร้อมกับเลนส์ 3 ตัว คือ คือ Leica Summicron-M 28 mm f/2 ASPH , Leica Noctilux-M 50 mm f/0.95 ASPH และ Leica APO-Summicron-M 90 mm f/2 ASPH เพิ่มความพิเศษด้วยความหรูหราจาก Hermès ที่ใช้หนังลูกวัวตัดเย็บหนังหุ้ม สายคล้องคอ และกระเป๋า ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 100 ตัวเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้สนนราคาอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท

จากการรวมตัวกันของของแบรนด์กล้องที่ดีที่สุด  และแบรนด์เครื่องหนังที่ดีที่สุด ทำให้ได้กล้องถ่ายมีคุณค่าน่าสะสม เหมือนกับ ‘Ashton Residence 41’ โครงการคอนโดที่ดีที่สุด บนสุดยอดทำเลที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัย อย่างย่านสุขุมวิท ที่แวดล้อมไปด้วยความสะดวกสบายรอบด้าน ทั้งแหล่งช็อปปิ้งชั้นนำอย่าง Em District แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ พร้อมการคมนาคมที่ง่ายดาย พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองได้อย่างดี  

ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่พร้อมทำให้ Ashton Residence 41 แห่งนี้เป็นเหมือนสถานที่สำหรับการพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ กับห้องพักสองระดับ ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสะดวกสบาย กว้างขวาง และให้อากาศถ่ายเทได้อย่างเหมาะสม ที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้การอยู่อาศัยของคุณได้อย่างแท้จริง และอีกหนึ่งจุดเด่นคือที่จอดรถอัตโนมัติ ที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาช่วยให้ประหยัดเวลา และเพิ่มพื้นที่จอดรถอีกด้วย

แม้ว่าจะอยู่ใจกลางเมือง คุณก็สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียวได้อย่างเต็มอิ่ม ด้วยสระว่ายน้ำที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นลำธารสุดสงบ พร้อมการโอบล้อมด้วยกำแพงต้นไม้สีเขียวที่เป็นเหมือนสวนพฤกษศาสตร์ขนาดย่อม ที่เพิ่มความร่มรื่นและเติมความสดชื่นและให้การหย่อนใจได้อย่างดี

สัมผัสกับบรรยากาศสุดพิเศษ ได้ที่สำนักงานขายโครงการ Ashton Residence 41 พร้อมรับราคาที่ดีที่จากคอนโดในย่านที่ดีอย่างสุขุมวิท เดินทางสะดวกเพียง 600 . BTS พร้อมพงษ์ ลงทะเบียนออนไลน์วันนี้รับสิทธิพิเศษสูงสุด 2 ล้านบาท* ที่ https://bit.ly/2FHQ0cV