สําหรับบางคน “นาฬิกา” อาจเป็นแค่อุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่เอาไว้บอกเวลา แต่สําหรับอีกหลาย ๆ คน “นาฬิกา” คือสัญลักษณ์แสดงคุณค่า ความสําเร็จ และความภาคภูมิใจที่ไม่มีสิ่งใดมาทดแทน

วันนี้เราจะมาทําความรู้จักกับแบรนด์นาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แต่มีปรัชญาที่มุ่งเน้นถึงการพัฒนาจุดเด่นดั้งเดิมอย่างไร้ที่สิ้นสุดกับคําว่า “Innovation is our Tradition” (นวัตกรรมคือวัฒนธรรมของเรา) อย่าง “Blancpain” กัน

Watch Redefined

เมื่อพูดถึง “นาฬิกา” หลายคนคงทราบดีว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ด้วยความที่วิถีชีวิตของคนเราล้วนดําเนิน และเกี่ยวข้องกับ “เวลา” ทั้งสิ้น ทําให้มีการประดิษฐ์อุปกรณ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อใช้ตอบโจทย์จุดประสงค์หลักในการ “บอก เวลา” ถูกคิดค้นพัฒนาเรื่อยมาตั้งแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาแดด, นาฬิกาทราย, นาฬิกาขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ สถาปัตยกรรม, นาฬิกาพก, นาฬิกาแขวนผนัง หรือ แบบตั้งโต๊ะตามที่เห็นกันจนชินตาในปัจจุบัน

จุดเปลี่ยนครั้งสําคัญของวงการ “นาฬิกา” คือ การถูกตีความ และนิยามใหม่ในฐานะ “เครื่องประดับ”รูปแบบหนึ่ง ซึ่งแสดงถึง รสนิยม, ฐานะ, ความสําเร็จของผู้สวมใส่ อันทําให้การประดิษฐ์นาฬิกาเพื่อ “บอกเวลา” เพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจเรื่องการออกแบบ, ความหรูหรา หรือความเป็นแบรนด์ ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

The Oldest Watch In History

จุดเริ่มต้นของแบรนด์นาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เริ่มมีการจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในปี ค.ศ. 1735 ณ เมืองวิลเลอเรต์ (Villeret) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้พรมแดนติดประเทศฝรั่งเศส  เมื่อนาย “เฌอฮาน-ฌาคส์ บลองแปง” (Jehan-Jaques Blancpain)

ลงทะเบียนไว้กับเทศบาลเมืองวิลเลอเรต์ ว่าตนเองมีอาชีพเป็น “ช่างทํานาฬิกา” (Horloger หรือ Watchmaker) อันเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์นาฬิกา “Blancpain” ที่เป็นธุรกิจประจําครอบครัว ทําสืบต่อเนื่องกันมานานถึง 200 ปี ก่อนจะส่งต่อให้ เบ็ตตี ฟิชแตร์ (Betty Fiechter) ผู้ช่วยคนสนิทบริหารแทน อีกทั้งเธอยังเป็นผู้บริหารหญิงคนแรกของแบรนด์ที่ได้พา Blancpain เข้าสู่การทำนาฬิกาประดับอัญมณีจนกลายเป็นที่โด่งดังระดับโลกที่หลายคนรู้จักกัน ในรุ่น Ladybird

ต่อมาเธอได้ส่งมอบตำแหน่งผู้บริหาร ให้กับหลานชายของเธอ ฌอง-ฌาคส์ ฟิชแตร์ (Jean-Jacques Fiechter)
ผู้ให้กำเนิด Modern Diving Watch เรือนแรกของโลกที่สาวกนาฬิการู้จักกันดีในรุ่น Fifty Fathoms นาฬิกาดำน้ำระดับมืออาชีพในตำนาน ที่ยังคงโด่งดังมาถึงทุกวันนี้

โดยปัจจุบัน Blancpain อยู่ภายใต้การบริหารงานของ Swatch Group

Innovation Is Our Tradition

นอกเหนือจากความเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแล้ว “Blancpain” ยังขึ้นชื่อในฐานะแบรนด์ที่ยึดมั่นการประดิษฐ์นาฬิกาด้วยมือ ตามหลักวิศวกรรมกลไกการบอกเวลาแบบดั้งเดิม เพื่อเน้นย้ำถึงความประณีตสูงสุด อีกทั้งยังไม่เคยผลิตนาฬิกาแบบ Quartz หรือแบบที่ใช้แบตเตอร์รี่เลย รวมถึงในช่วง Quartz Crisis ที่หลาย ๆ แบรนด์ถูกบีบให้ผลิตนาฬิกา Quartz ออกมาจํานวนมาก

จนกระทั่งมีคํากล่าวว่า “Since 1735, There has never been a quartz Blancpain watch. And there never will be.” (ตั้งแต่ปี 1735, ไม่เคยมีนาฬิกา Quartz ของ Blancpain, และจะไม่มีวันมี) ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่ยึดมั่นในมรดกวิศวกรรมนาฬิกาแบบดั้งเดิมที่มีอายุเกือบ 3 ศตวรรษ ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อันแสนคลาสสิคที่หาได้ยากยิ่งจากนาฬิกาแบรนด์อื่น ๆ

รวมถึงมุ่งมั่นพัฒนากลไก, การออกแบบ รวมไปถึงสร้างความหลากหลายในการใช้งาน เพื่อเป็นแบรนด์นาฬิกาหรู
ที่ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา ตามปรัชญา “Innovation is our Tradition” ที่ยึดมั่นมาเกือบ 300 ปี

Fifty Fathoms นาฬิกาดำน้ำร่วมสมัยเรือนแรกของโลก

หากจะพูดถึง Collection นาฬิกาที่เปี่ยมเสน่ห์ ทรงคุณค่า และมีมูลค่าที่สุดของ Blancpain หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Fifty Fathoms อยู่ใน List อย่างแน่นอน ด้วยความเป็นนาฬิกาดําน้ําสมัยใหม่เรือนแรกของโลก ที่ถูกผลิตเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ 1953

เพื่อนําไปใช้ในปฏิบัติการทางทหารสําหรับ “นาวิกโยธินฝรั่งเศส” ตามความต้องการให้ใช้ได้อย่างแม่นยําในระดับความลึก “50 ฟาธอมส์” (ประมาณ 91.5 เมตร) ซึ่งมีประสิทธิภาพเดินเที่ยงตรงเชื่อถือได้จริง จนกลายเป็นที่มาของชื่อรุ่น Fifty Fathoms ในที่สุด

Tribute To Fifty Fathoms MILSPEC

จากกิตติศัพท์ความเป็นนาฬิกาดำน้ำร่วมสมัยรุ่นแรกของโลกที่ผลิตให้กองทัพฝรั่งเศส ต่อมา Fifty Fathoms ได้ให้ถูกผลิตให้กองทัพสหรัฐฯนำไปใช้ในปีค.ศ. 1957 นั้น นาฬิการุ่นนี้ก็ได้ถูกนํากลับ มาผลิตใหม่อีกครั้งในปี 2017 เพื่อหวนรำลึกถึงตำนานแห่งสุดยอดนาฬิกาดำน้ำ

นาฬิการุ่น Fifty Fathoms MIL-SPEC (Military Specification) ทั้งรุ่นในอดีต และปัจจุบัน จะมีจุดเด่น ที่แถบกลมแสดงค่าความชื้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พิเศษแสดงถึงงานระดับ Professional ผลิตตามความต้องการของกองทัพ เพื่อบ่งบอกสภาพพร้อมใช้งานของนาฬิกา ซึ่งในรุ่น Blancpain Tribute To Fifty Fathoms MIL-SPEC 2017 นี้ มีสายให้เลือกทั้งหมดจำนวน 3 แบบ ได้แก่ สายสตีล, สายเซล-แคนวาส และสายผ้าแบบนาโต้ ที่ถูกผลิตมาจำนวนจำกัดเพียง 500 เรือนทั่วโลกเท่านั้น

Fifty Fathoms Barakuda

อีกหนึ่งผลผลิตที่มีชื่อเสียงอันโด่งดันของ Fifty Fathoms ที่ Blancpain ร่วมมือกับ Barakuda บริษัทผลิตอุปกรณ์ดําน้ําสัญชาติเยอรมัน เพื่อผลิตนาฬิกาดําน้ําคุณภาพออกมาให้กองทัพ และพลเรือนเยอรมันได้ใช้ในยุค 1960 ก่อนจะถูกนํามาผลิตใหม่อีกครั้งในปี 2019

โดยในครั้งนี้ได้ถูกนำรายละเอียดที่โดดเด่นจากรุ่นดั้งเดิม มาใส่ไว้ในรุ่น Re-Production อย่างปราณีตจนกลายเป็นนาฬิกาดำน้ำที่เพอร์เฟค ไร้ซึ่งที่ติตั้งแต่ครั้งแรกที่ผลิตออกมา และสามารถกันน้ําได้ลึกถึง 300 เมตร ทั้งยังมีระบบเดินเข็มอัตโนมัติสํารองพลังงานได้ถึง 4 วัน ภายใต้ลุคเคร่งขรึม สง่างาม โดยจําหน่ายในฐานะ Limited Edition ที่ผลิตเพียง 500 เรือนทั่วโลกเท่านั้น

Blancpain Ocean Commitment

นอกจากการทํานาฬิกาดําน้ําคุณภาพระดับโลกแล้ว อีกหนึ่งคุณค่าที่โปรเจค Blancpain Ocean Commitment (BOC) ได้มอบให้กับสังคม คือ Campaign การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล ซึ่งนําไปสู่การผลิตนาฬิกา Limited Edition 3 รุ่น ได้แก่ BOC I, BOC II, BOC III ในปี 2014, 2016, 2018 ตามลําดับ

ผลิตจำกัดเพียงรุ่นละ 250 เรือนทั่วโลก เพื่อนํารายได้ 1,000 ยูโรต่อเรือน ไปบริจาคให้กับองค์กรที่สนับสนุนการอนุรักษ์ และปกป้องทะเลทั่วโลก

Ladybird กำเนิดนาฬิกาข้อมือสตรีที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก

อีกหนึ่งคุณค่าเหนือกาลเวลา กับนาฬิกาข้อมือรุ่น Ladybird ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1956 ด้วย Concept การเป็นนาฬิกาขนาดเล็กสําหรับสุภาพสตรี ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 11.85 มิลลิเมตร
(เล็กที่สุดในสมัยนั้น) และการนําอัญมณีน้ํางามมาประดับบนตัวเรือนเพื่อเพิ่มความหรูหราเฉพาะตัว ทั้งยังร่วมสมัยจนถึงปัจจุบัน ทําให้ Ladybird เป็นอีก หนึ่งหมุดหมายสําคัญสําหรับ Blancpain มาอย่างยาวนาน

Ladybird Marilyn Monroe (นาฬิกาคู่ใจของมาริลีนมอนโร)

หากพูดถึง Ladybird แล้ว ก็คงจะไม่พูดถึงความเป็น Icon แห่งความงามในโลกนาฬิกาใน Ladybird รุ่นปี 1962 คงจะไม่ได้ เพราะนาฬิการุ่นนี้เป็นรุ่นที่ตํานานแห่งวงการฮอลลีวูด “มาริลีน มอนโล” เลือกสวมใส่ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่เพชรกว่า 71 เม็ดที่ ส่องประกายอย่างหรูหรา พร้อมเพชรทรงมาคีส์อีก 2 เม็ดบริเวณด้านบนและล่างของตัวเรือน และหน้าปัดที่ถูกออกแบบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสไตล์ Art Deco ไม่ซ้ำใคร

ซึ่งจากความโด่งดังระดับตํานานของนางเอกผมบลอนด์เจ้าเสน่ห์ ผนวกกับการออกแบบที่หรูหราจนรู้สึกว่าสูงเกินเอื้อมนี้เองที่ทําให้ Ladybird รุ่นนี้ กลายเป็นนาฬิกาอีกหนึ่งเรือนที่แทบจะประเมินมูลค่าไม่ได้เลย ปัจจุบันนาฬิกาเรือนนี้ได้รับการประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 225,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,200,000 บาท เพื่อนำมาเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ของ Blancpain ในสวิตเซอร์แลนด์

Villeret Collections นาฬิการุ่นคลาสสิคสุดของบลองแปง

ย้อนกลับมายังปี ค.ศ. 1735 กับการตีความคุณค่าเหนือกาลเวลาผ่านจุดเริ่มต้นของ Blancpain ที่เมืองวิลเลอเรต์ (Villeret) อีกครั้ง กับ Villeret Collection คอลเลคชั่นที่คลาสสิคที่สุดของ Blancpain ที่สรรค์สร้างจากความตั้งใจในการสะท้อนให้เห็นถึงรากฐาน อัตลักษณ์ของแบรนด์

ตั้งแต่ความโค้งนูนรอบตัวเรือน, ความบาง, การจัดวางตําแหน่งต่าง ๆ บนหน้าปัด ที่เน้น ความเรียบง่าย แต่อ่านค่าได้อย่างชัดเจน พร้อมพัฒนาโดยการผนวกเอากลไกใหม่ ๆ มาใช้ ให้กลายเป็นหนึ่งในต้นแบบนาฬิกาคลาสสิคของโลกอย่างเต็มตัว

Complete Calendar เรือนเวลาผู้กอบกู้บลองแปงขึ้นมาอีกครั้ง

หนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่มี Moon Phases หรือดวงจันทร์บนหน้าปัดที่บอกข้างขึ้นข้างแรม และฟังก์ชั่น Complete Calendar ที่บอกวัน, วันที่, เดือน ให้นอกเหนือจากเวลา ทําให้ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคก่อน ซึ่งหลังจากนั้น Blancpain ก็ได้นํานาฬิกาฟังก์ชั่นนี้ กลับมาผลิตใหม่ในปี 1983 และกลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของแบรนด์

ในปัจจุบัน Complete Calendar ได้ถูกนํามาผลิต และพัฒนาใหม่ อย่างต่อเนื่อง และได้มีการเพิ่มฟังก์ชั่น อาทิ ฟังก์ชั่น GMT เข้ามา อีกทั้งยังปรับให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังคงกลิ่นอายคลาสสิค เรียบหรู ในรูปแบบเดิมไว้ไม่เสื่อมคลาย

LesMétier DesArts ศิลปะแห่งเรือนเวลาที่ถูกประดิษฐ์ด้วยมืออย่างปราณีต

นาฬิกาคุณภาพสูงของ Blancpain ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในการเป็น Unique Piece เฉพาะตัวให้กับผู้สวมใส่ จากการนําเอาศิลปะการแกะสลักลงยา ไปจนถึงการเลี่ยมทองที่ผ่านกระบวนการประดิษฐ์ด้วยมืออย่างปราณีตมา Customize บนหน้าปัดนาฬิกา ทําให้มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างไม่ซ้ำแบบใคร แต่ก็ยังคงซึ่งความประณีต เรียบหรูในแบบคลาสสิค เปรียบเสมือนงานศิลปะที่มีเพียงชิ้นเดียวบนโลก ที่เพิ่มเสน่ห์ความเป็นตัวเองให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

Traditional Chinese Calendar

ปิดท้ายด้วยรุ่นพิเศษที่ Blancpain ประดิษฐ์ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันเป็นเลิศ โดยเป็นนาฬิกา ที่สามารถบอกเวลาได้ในรูปแบบของ ปฏิทินจีน ตั้งแต่การบอกปีนักษัตร, เวลาหยินหยาง ธาตุต่าง ๆ และ วัน, เดือน,ปี ในรูป แบบของจีนโบราณ ด้วยฟังก์ชั่นที่ซับซ้อนจึงทำให้ Blancpain เป็นแบรนด์แรก และแบรนด์เดียวที่ผลิตกลไกนี้ได้

โดยมีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ  ตัวเรือนที่ผลิตจากวัสดุ Red Gold ตัวเรือนที่ผลิตจากวัสดุ White Gold
ซึ่งเป็น Limited Edition ประจำปี โดยจะมีการแกะสลักรูปสัตว์ของปีนักษัตรนั้น ๆ ลงไปที่โรเตอร์ของนาฬิกา

แม้ Collection ทั้งหมดนี้จะทรงคุณค่า และมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองแค่ไหนก็ตาม แต่นี่ยังไม่ใช่คุณค่าเหนือกาลเวลาทั้ง หมดที่แบรนด์คุณภาพระดับโลกอย่าง Blancpain จะมอบให้กับผู้สวมใส่ เพราะยังมีนาฬิการุ่นต่าง ๆ อีกมากมายให้เลือกสรร ทั้งยังไม่นับรวมรุ่นใหม่ ๆ ที่จะตามมาในอนาคต ที่เราสามารถการันตีได้เลยว่า

“แม้เทคโนโลยีทุ่นแรงในวงการนาฬิกาจะถูกพัฒนาขึ้นแค่ไหน Blancpain ก็จะยังคงยึดถือและพัฒนาหลักการทํานาฬิกาแบ บดั้งเดิม เพื่อความประณีต, เที่ยงตรงมากที่สุด และเป็นหนึ่งในวิศวกรรมการบอกเวลาอย่างแท้จริงแน่นอน”

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.blancpain.com