เชื่อว่าตอนนี้หลายคนกำลังประสบปัญหานี้อยู่เพราะ Rolex มือหนึ่งรุ่นฮิตที่ตัวเองอยากได้ไม่มีของจนต้องต่อคิวรอกันเป็นปี ๆ ทำให้หลายคนเริ่มหันไปซื้อมือสองแทนจนทำให้ราคาพุ่งเป็นเท่าตัว หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดของ Rolex ?

สาเหตุที่ของขาดตลาด

เป็นที่รู้กันดีว่า Rolex ผลิตนาฬิกาได้ประมาณ 1 ล้านเรือนต่อปี แม้จะผลิตออกมาในจำนวนหลักล้านแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคอยู่ดี ยิ่งในช่วงโรคระบาด ทาง Rolex ก็สั่งหยุดการผลิตในโรงงานที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไปหลายเดือนส่งผลให้นาฬิการุ่นยอดนิยมอย่าง GMT , Submariner และ Daytona ขาดตลาดจนราคารีเซลพุ่งสูงเป็นเท่าตัว และขายออกได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่นาที

ซึ่งพวกเขาก็ไม่อยากเพิ่มจำนวนการผลิตด้วยเพราะต้องการขายแต่ของที่มีคุณภาพเท่านั้น ถ้าเพิ่มจำนวนการผลิตก็อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง และอาจส่งผลให้นาฬิกา Rolex มีคุณภาพที่ลดลง

ทำไมถึงหาซื้อมือหนึ่งไม่ได้เลย

แม้ Rolex มือหนึ่งจะมีราคาถูกกว่ามือสองเป็นเท่าตัว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะซื้อได้ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วทาง ‘ดีลเลอร์’ จะแนะนำให้ลูกค้าซื้อนาฬิการุ่นอื่นของแบรนด์ก่อนถึงจะสามารถซื้อรุ่นยอดนิยมได้ ซึ่งไม่ใช่ว่าถ้าซื้อตัวอื่นแล้วจะซื้อรุ่นที่อยากได้ในทันที แต่ต้องรอคิวก่อน (บางคนรอเป็นปี ๆ เลยนะ !) นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่คนนิยมซื้อ Rolex มือสองมากกว่ามือหนึ่ง จนทำให้ราคารีเซลพุ่งสูงเป็นเท่าตัว !

และเหตุผลที่ทำให้พวกเขาต้องให้คุณซื้อรุ่นอื่น ๆ ก็เพราะว่า Rolex จะสุ่มส่งนาฬิกาให้กับ ‘ดีลเลอร์’ โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าแต่ละครั้งจะได้รุ่นอะไรมาขายบ้าง ถ้าโชคดีก็จะได้รุ่นยอดฮิตขายหมดไวไป แต่ถ้าไม่ได้รุ่นยอดฮิตก็ต้องขายรุ่นพวกนี้ไปก่อนจนกว่าทางแบรนด์จะส่งสินค้าใหม่มาให้ !

สรุปของขาดจริงหรือแค่การตลาด

“สินค้าขาดตลาด ไม่ใช่กลยุทธ์ของเรา เราเน้นคุณภาพไม่ได้เน้นปริมาณ”
ผู้บริหาร Rolex ในกรุงเจนีวากล่าว

ดังนั้นสิ่งที่เราได้เห็นในบทเรียนครั้งนี้ คือ Rolex ไม่ได้ทำการตลาดด้วยการทำให้ของขาด แต่ทำการตลาดด้วยความต้องการขายสินค้าที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่สิ่งที่ได้กลับมาอีกต่อหนึ่ง คือ ได้เพิ่มมูลค่าและความภูมิใจให้แก่ผู้ครอบครอง และยังเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ Rolex อีกด้วย

อ้างอิงข้อมูลจาก :
https://www.bloomberg.com , https://loveluxury.co.uk/…/guide-to-purchasing-a-new…/ , https://www.scmp.com